กลับมารื้อฟื้นถึงผลงาน คุณงามความดี ของผู้สนับสนุนวงการมวยโลกเมืองไทยในสมัยก่อน แม้อาจจะมีกลโกงผสม แต่ก็แฝงไว้ด้วยผลงาน ที่ก่อกำเนิดให้เกิด ฮีโร่ของประเทศชาติ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ !?!?
เมื่อยุคย้อนหลังไปราวๆสี่สิบกว่าปีก่อน
เดิมที ว่าจะเขียนถึง มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา แต่ทำไปทำมา คงต้องเอ่ยถึง “บิ๊กอึ่ง” คุณสมภพ ศรีสมวงศ์ ด้วยอีกคน เพราะท่านเป็นตัวต้นเหตุ ผู้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ เป็นอเนกอนันต์ นั่นก็คือการสนับสนุนปลุกปั้นจน เรามีแชมเปี้ยนโลก สายสภามวยโลก WBCอย่างต่อเนื่องมาอีกหลายคน
คุณสมภพ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น สหสมภพ) เจ้าของฉายา “บิ๊กอึ่ง” (ต่อมาเปลี่ยนฉายาด้วย เป็น บิ๊กผมอึ่ง แต่สื่อทั่วไปไม่ค่อยนิยม) เมื่อเปิดตัว ก่อตั้ง องค์กร “สภามวยเอเชีย” ABC ได้สำเร็จเป็นทางการ ในปี ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) มีชาติสมาชิก 10 ประเทศ ยกเว้นชาติที่อยู่ในภาคี OPBF (สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลฯ) จะไม่กล้ามาร่วมสังคายนาด้วย ดังนั้น สมาชิกส่วนใหญ่ของ ABC หรือ Asian Boxing Council จึงเต็มไปด้วยแขก อาทิ คูเวต ,มาเลเซีย,อินเดีย ,ปากีสถาน ฯลฯ เสียเป็นส่วนใหญ่
มันส์ ส.จิตรพัฒนา
ว่าด้วยเรื่องชื่อของ “สถาบัน” เนื่องจากมีการทับซ้อนกันกับ องค์กรมวยแอฟริกันในสมัยก่อน (แต่ African Boxing Confederation ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น African Boxing Union ไปแล้ว) และ เอบีซี ของไทย ในเวลาต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเรียกย่อๆ เป็น ABCO หรือ “เอ็บโก้” และเปลี่่ยนเป็น WBC Asia หรือ สภามวยแห่งเอเชีย จนถึงปัจจุบัน
ขอท้าวความย้อนหลังไปในปี ค.ศ.1981 (พ.ศ.2524) นับตั้งแต่ เอ็ดเวิร์ด ชวน บิ๊กอึ่ง ไปแนะนำตัวรู้จักกับ โฮเซ่ สุไลมาน ในงานประชุมใหญ่ สามัญประจำปี WBC ที่เกาหลี ด้วยชะตาต้องกัน ทำให้ทั้งสามนั้นผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ชนิดที่ว่า “อะลุ้มอล่วย” อะไรที่ไม่น่าเกลียดเกินไป หากพอจะช่วยได้ก็ช่วย
มีหลายกรณีที่ “ป๋าโฮ” แสดงให้เห็นเลยว่า แกมีใจช่วยเหลืออย่างเต็มที่อย่างเป็นที่รู้ๆกัน กรณีแรก คือการ ที่ “บิ๊กอึ่ง” ต้องการจะเรียนลัด สร้างนักมวยไทยผลักดันสู่บัลลังก์โลกในเส้นทางสาย WBC ซึ่งยุคนั้นเป็นช่วงที่ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ (แชมป์โลก คนที่ 5) และ เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ (คนที่ 6) เพิ่งเสียแชมป์โลกไป
ภาคใต้ ลิโพวิตัน-ดี
ยิ่งล่าสุด หลังผิดหวังในการผลักดัน พงษ์พันธ์ ศ.พญาไท มวยสร้างรายแรกของตน จากนั้นมาถึงคิว “มันส์ ส.จิตพัฒนา” มวยไทยหมัดหนัก จับมาปลุกปั้น ชกออกตู้เวทีช่อง 7 สี ซึ่ง บิ๊กอึ่งเองเป็น นายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี อยู่ด้วย ไฟต์สำคัญๆฉายแววดี คือ ชนะคะแนน ภาคใต้ ลิโพวิตัน-ดี และ ทุบ มนต์สยาม ฮ.มหาชัย พ่ายทีเคโอ ยก 5 ช่วงปลายปี 81 มาต้นปี ม.ค.82 มันส์ ดันมาดวงแตกแพ้หมดสภาพให้ เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ อดีตแชมเปี้ยนโลกที่เพิ่งหมดอนาคต หลังพ่ายน็อก “ไอ้ทรพี” ฮิลาริโอ ซาปาต้า เมื่อปลายปีที่ผ่านมาน่าตาเฉย
ความวุ่นวายและผิดพลาดเกิดขึ้น เมื่อ บิ๊กอึ่ง วานให้ มร.เอ็ดเวิร์ด ส่งชื่อ มันส์ มวยสร้างไปยังสภามวยโลก จนมีชื่อเข้าอันดับท็อปเท็น ไลต์ฟลายเวต (108 ปอนด์) เตรียมจะไปชิงแชมป์โลก ที่เกาหลี กันแล้วแท้ๆ แต่ในระหว่างนั้น เมื่อผิดแผน มันส์ แพ้หมดสภาพ ซ้ำทำท่าถอดใจเลิกเอาดื้อๆ หนำซ้ำยังมีชื่อเข้าอันดับโลกในเดือนถัดมาเรียบร้อยแล้วด้วย
ทำให้ต้องมีการปรับแผนแก้ไขกันใหม่ และปรากฏชื่อ ที่เขียนส่งแฟ็กซ์ไปเม็กซิโกนั้นหมึกจางเกินไป จึงสะกดผิด คำว่า “มันส์” ตัวหน้าหายไป เหลือแต่ชื่อ ส.จิตรลดา เมื่อมีการทักท้วงการแก้ไขใหม่อีก จนสุดท้ายจึงกลายเป็น “สด” และเหลือชื่อค่าย “จิตรลดา” ในเวลาต่อมา โดยที่นักมวยยัง”ไม่มีตัวตนจริง”ในเวลานั้น !!
ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า ในสมัยก่อน กว่านักมวยสร้างคนหนึ่งจะมีชื่อเข้าทำเนียบ ท็อปเท็น (1 ในสิบ) ติดอันดับโลก จึงจะมีสิทธิ์ได้ชิง ถือเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ เราเคยมี ผล พระประแดง ติดทำเนียบ รองแชมป์โลกคนแรกของไทย สมัยหลังสงครามโลก ทว่าสุดท้ายก็หมดอนาคตหลุดลอยไป และต้องใช้เวลาเนิ่นนานหลายสิบปีกว่าจะมี โผน กิ่งเพชร ประสบความสำเร็จเป็นแชมเปี้ยนโลกคนแรกของไทย ก่อนจะมีเหตุแปลกแหวกแนว เมื่อ “ไอ้แสบ” แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ชกเพียง 3 ไฟต์กลายเป็นแชมป์โลก ถือเป็นประวัติศาสตร์ สถิติโลกจนถึงปัจจุบัน
สำหรับเหตุการณ์ ชื่อ “สด จิตรลา” มวยที่ยังไม่มีตัวตน (ณ เวลาขณะนั้น) จึงถือเป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ ที่อย่าว่าแต่ฝรั่ง แม้แต่คนไทย ก็แทบไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ ทว่าก็ด้วย ฝีมือของ บิ๊กอึ่ง และ กำลังภายในของ มร.เอ็ดเวิร์ด กอปรกับบารมีอิทธิพลของ โฮเซ่ สุไลมาน ประธานใหญ่เป็นสำคัญ ที่ยอมซูฮก ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หาวิธีรองรับ
บิ๊กอึ่ง จึงหาทางออกด้วยการ ไปคว้า “เชาวลิต ศิษย์พระพรหม” นักมวยไทยจากชลบุรี มวยไอ้แอ้ดล่าเงินเดิมพันจากฝั่งตะวันออก ของ”ทิดแฝด”บุญเชือน เจริญผล ซึ่งดูหน่วยก้าน อดทน มีกระดูกมวย และที่สำคัญยังเคยผ่านเบสิกสากล เชิงสมัครเล่น พร้อมดีกรีแชมป์มวยเสื้อกล้าม ประเทศไทย ปี พ.ศ.2523 ที่ ขอนแก่น มาเทิร์นโปรชกสากลอาชีพแทน
จับ “บังเชาว์” นักชกอิสลาม มาเรียนลัดชกสากล เข้ารองอันดับโลก WBC สวมรองเท้าเชิงมวยอาชีพ สร้างเสริมประสบการณ์แบบเร่งรัด เพียงปีเดียว (1983) 4 ไฟต์ ชนะรวด ปราบมวยดีอย่าง สุริยา ปทุมวดี (มวยภรรยา รอง เค้ามูลคดี ผู้ล่วงลับ) และทุบ จ้าวเณรน้อย จอมคาถา (ยก 2) ฯลฯ
จากมวย “ตัวปลอม” มีชื่อแต่ไร้ตัวตน ดันโผล่เข้าทำเนียบรองแชมป์โลก WBC รุ่นไลต์ฟลายเวต อย่างงงๆ ทั้งนี้ก็ด้วยผลงานชิ้นโบว์ดำของคนสองคน (บิ๊กอึ่ง-เอ็ดเวิร์ด) จากนี้ไปชื่อของเขา สด จิตรลดา จะเป็นที่จดจำ …
ติดตาม เหตุการณ์ ศึกชิงแชมป์โลก สุดประหลาด ในไฟต์ต่อไป ที่คนไทย ต้องจดจำ ได้ในลำดับต่อไป สวัสดี
++++++
บทความ : กีฬาโลกกำปั้น “สาวสังเวียน กับ สอดสร้อย”