วันที่ 23 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความเป็นธรรม จากนางอารียา ชาวบ้านสังแก ม.6 ต.แตล อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าลูกสาวของตนเองชื่อ น.ส.ฝ้าย อายุ 16 ปี ได้ไปรู้จักกับเพื่อนในเฟซบุ๊กกับชายหนุ่ม ชื่อนายก้อง อายุ 18 ปี บ้านอยู่ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ติดต่อกันมาเมื่อปี 2564 หลังจากนั้นได้นัดพบและไปมาหากันซึ่งขณะนั้นลูกสาวกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นเพื่อนกันตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่นานก็ได้ทราบว่า ลูกสาวของตนตั้งท้องและฝ่ายชายก็หลบหนีกลับไปบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จนกระทั่งล่าสุดลูกสาวได้คลอดลูกออกมาเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 65
นางอารียา กล่าวอีกว่า หลังจากที่ลูกสาวคลอดมาได้ประมาณ 1 เดือน ตนเองและครอบครัวก็ลำบาก สามีไปรับจ้างตัดอ้อยอยู่ที่ชลบุรี เพื่อหาเงินมาใช้หนี้บ้านที่ส่งเดือนละ 5 พันบาท ลูกสาวทำอะไรไม่เป็น ตนต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาใช้ไปวันๆ บางวันท้อไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงได้ตัดสินใจขอความเมตตาจากนักข่าวในพื้นที่ เพื่อที่จะเป็นกระบอกเสียงไปถึงนายก้อง ที่อยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตนและครอบครัวก็ลำบากอยู่แล้วต้องมาเลี้ยงหลานอีกคน ตนไม่ขออะไรมากขอให้ออกมารับผิดชอบกับเรื่องที่ก่อขึ้น มาดูแลลูกสาวของตนและลูกน้อยก็พอใจแล้ว
ทางด้านน้องฝ้าย แม่เลี้ยงเดี่ยว บอกว่า รู้จักกับคนชื่อก้องทางเฟซบุ๊ก และได้เล่นเกมด้วยกัน หลังจากนั้นก็ติดต่อกัน และนายก้องนัดแนะว่าเขาจะมาหาที่บ้าน จนกระทั่งพาไปเที่ยวบ้านทางภาคใต้และแอบลักลอบได้เสียกัน ซึ่งพ่อและแม่ไม่ได้รับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยก้องบอกว่าจะดูแลไม่ทอดทิ้ง และจะเป็นคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“จนกระทั่งหนูตั้งท้องได้ประมาณ 4 เดือน พอรู้ว่าเราตั้งท้องก็หาทางหลีกเลี่ยงหลบหลีก ทักไปก็ไม่เคยพูดเคยคุยอะไร ซึ่งก็พอทราบแล้วว่าก้องไปมีแฟนใหม่และคงถูกทิ้งให้อยู่ลำพังกับลูก จนกระทั่งมีเพื่อนทักมาบอกว่าก้องไปมีคนใหม่แล้ว จึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมกับสิ่งที่เขาทำกับเรา ขอรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน รับจ้างขายโทรศัพท์ทางออนไลน์ประทังชีวิต ได้เงินซื้อนมให้ลูก กำไรเครื่องละ 100 ถึง 200 บาท พ่อแม่ก็ลำบากมาก เราโตมาถึงขนาดนี้ แทนที่จะทำงานชดใช้บุญคุณพ่อแม่แต่ต้องให้พ่อแม่มาลำบาก ฝากถึงคนชื่อก้อง ลูกผู้ชายจริงก็ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย เรื่องอื่นไม่ติดใจเพราะทุกอย่างรู้อยู่แก่ใจตัวเอง แต่ถ้าเขาทำกับเราได้ถึงขนาดนี้แล้ว ก็เกรงว่าผู้หญิงอื่นจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไปและจะต้องมานั่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกับเรา” น้องฝ้ายกล่าว