สุรินทร์ – สองผัวเมียชาวกาบเชิงเมืองช้าง นอนอยู่ในบ้านจู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่ชั้นบนบ้านเกิดเปลวไฟลุกไหม้เผาวอดบ้านพร้อมทรัพย์สินกลางดึก ไม่สามารถนำเอาอะไรออกมาได้ต้องหมดเนื้อหมดตัวในพริบตา รอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสาเหตุ
วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนนี้ เวลา 22.45 น. ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทางสายด่วนหมายเลข 191 เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนจึงได้เร่งประสานรถน้ำดับเพลิงป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลกาบเชิง ให้ออกตรวจสอบสนับสนุนดับเพลิงที่กำลังโหมไหม้บ้านเรือนประชาชนร่วมกับรถน้ำดับเพลิงป้องกันบรรเทาสาธารณภัยโคกตะเคียน พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.กาบเชิง อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท หน่วยกู้ชีพเทศบาลกาบเชิง หน่วยกู้ชีพโคกตะเคียน และชาวบ้านช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถดับเพลิงไว้ได้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 134 ม.5 บ.โคกกลาง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทราบชื่อเจ้าของบ้าน นายเสวียน สำรวมจิตร และ นางสมพงศ์ สำรวมจิตร อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา จากการสอบถามทราบว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนอนอยู่ชั้นล่างและได้ยินเสียงคลายระเบิดจึงได้ลุกขึ้นมาดูได้เหลือบไปเห็นเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้และมีเสียงระเบิดเป็นระยะที่ชั้น 2 ของบ้าน จึงรีบลุกขึ้นไปตักน้ำใส่ถังน้ำ วิ่งขึ้นไปดับไฟที่กำลังลุกไหม้แต่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วมาก จึงได้พากันวิ่งลงไปเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วยกันดับไฟ ขณะรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลกาบเชิงและหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยโคกตะเคียนจะเข้ามาช่วยดับเพลิง แต่ไม่สามารถเอาทรัพย์สินในบ้านออกมาได้เลย
หลังจากเพลิงสงบลงพบว่า บ้านเรือนถูกเพลิงไหม้ ได้รับความเสียหายทั้งหลังพร้อมทรัพย์สินสิ่งของมีค่าภายในบ้านถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยต้นเพลิงเกิดจากชั้น 2 ของตัวบ้าน ส่วนสายเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใดในครั้งนี้จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรสุรินทร์ เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจะได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบและประเมินค่าความเสียหายทั้งหมดอีกครั้งในวันนี้ (27 ก.พ.)
ขณะที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ พรมบุตร พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้ทำการเข้าตรวจสอบเก็บภาพและข้อมูลเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นจึงได้สั่งการให้กันพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุไว้รอช่วงเช้าจะได้แจ้งให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอีกครั้งและจะได้เรียกเจ้าของบ้านรวมถึงพยานในที่เห็นเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุเพื่อสอบถามหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป