ลูกบ้านโวยลั่น บ้าน 4 ล้าน ร้าว 50 หลัง เหตุข้างหมู่บ้านสร้างโกดัง
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง หมู่บ้าน เค.ซี พาร์ควิลล์ ถนนตำหรุ-คลองเก้า ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังทราบว่ามีชาวบ้านออกมารวมตัวกันเรียกร้องให้หยุดดำเนินการก่อสร้างโกดังเก็บสินค้า เนื่องจากบ้านได้รับผลกระทบจากตอกเสาเข็มกว่า 5,000 ต้น จนทำให้โครงสร้างบ้านแตกร้าวสียหายกว่า 50 หลัง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปถึง พบว่าหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่กว่า 500 หลังคาเรือน แบ่งออกเป็นทาวน์โฮมและบ้านเดียว 2 ชั้น มี โดยถนนทางเข้าหมู่บ้านติดกับรั้วโครงการก่อสร้างโกดัง โดยบ้านที่ได้รับผลกระทบ มีระยะห่างจากแนวพื้นที่การก่อสร้างเพียง 20 เมตร
นอกจากนี้บนพื้นที่ก่อสร้างโกดัง ยังพบว่ามีเสาเข็มขนาดใหญ่จำนวนมากถูกตอกลงบนพื้นดิน ซึ่งมีการถมที่ปรับระดับสูงจากถนนทางเข้าหมู่บ้านเกือบ 2 เมตร ขณะที่ชาวบ้านต่างออกมารวมตัวกันถือป้ายเรียกร้องให้หยุดการก่อสร้าง พร้อมพาผู้สื่อข่าวสำรวจโครงสร้างของบ้าน ซึ่งพบว่ารั้วบ้านและทางเท้ามีรอยแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัด
นางรัตติกาล สุรินทร์ อายุ 51 ปี หนึ่งในลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตนซื้อบ้านในราคา 4,000,000 บาท รวมซ่อมแซมบ้านหมดไปอีกกว่า 800,000 บาท จนบ้านอยู่ในสภาพสมบูรณ์
ก่อนซื้อบ้านหลังนี้ ตนถามไปทางโครงการแล้วว่า พื้นที่รกร้างที่อยู่ตรงข้ามบ้านจะก่อสร้างอะไร ทางโครงการแจ้งว่าจะเป็นหมู่บ้านจัดสรร ตนจึงตกลงซื้อ กระทั่งเมื่อปี 63 มาทราบว่าที่ดังกล่าวไม่เป็นบ้านจัดสรรอย่างที่บอกไว้ แต่มีการปรับพื้นสูงกว่า 2 เมตร เพื่อก่อสร้างโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ จากผลกระทบการปรับพื้น ส่งผลให้น้ำไหลลงมาท่วมทางเข้าหมู่บ้าน จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
จนล่าสุดปลายปี 63 ผู้รับเหมาที่สร้างโกดังเก็บสินค้า เริ่มตอกเสาเข็ม ทำให้บ้านเกิดการสั่นสะเทือน ผู้ที่อาศัยอยู่โซนด้านหน้าได้รับผลกระทบทั้งมลภาวะทางเสียง ฝุ่นละออง และบ้านแตกร้าวเสียหาย
นางรัตติกาล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนร้องเรียนไปทางโครงการ เค.ซี พาร์ควิลล์ เพื่อให้เป็นตัวแทนประสานไปยังทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างโกดัง เข้ามาเจรจาหาทางออก ตนถามว่าจะดำเนินการให้เมื่อไหร่ ทางตัวแทนบริษัทบอกว่ายังตอบไม่ได้ จนกว่าจะดำเนินการตอกเสาเข็มกว่า 5,000 ต้นเสร็จก่อน เมื่อยังไม่มีความชัดเจนจึงได้รวมตัวกันออกมาเรียกร้อง
หลังจากนี้ตนเองและผู้ได้รับผลกระทบ จะเดินทางไป ที่ สภ.บางปู เพื่อเป็นหลักฐานว่าบ้านเกิดความเสียหายจริง จากนั้นจะดำเนินการร้องเรียนไปหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายเลอพงศ์ ขวัญเรือน ฝ่ายประสานงานโครงการก่อสร้างโกดัง ทราบว่า เบื้องต้นผู้รับเหมายินดีที่จะซ่อมบ้านให้ตามความเป็นจริง ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ยืนยันว่าไม่ได้ปัดความรับผิดชอบกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้มอบหมายช่างเข้าไปปรับปรุงบ้านที่เสียหายบ้างแล้ว