วันนี้ 22ก.พ.2564 เวลา 15.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.พนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จำนวน 8 ราย เข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับครูประจำชั้นชายที่ทำอนาจารลูกศิษย์ของตัวเอง จำนวนกว่า 10 ราย โดยผู้ปกครองบางรายบอกว่าเด็กนักเรียนถูกทำอนาจารมาตั้งแต่อยู่ชั้น ป.2 เรื่อยมา แต่ไม่กล้าบอกผู้ปกครอง ซึ่งมีทั้งถูกทำอนาจารในห้องเรียนและที่บ้านพักครู
นาง ดำ (นามสมมุติ) วัย 50 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กนักเรียนหญิงรายหนึ่ง กล่าวว่า โมโหมากนอนไม่หลับเลยเครียดมากเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็กๆรักเขาเหมือนลูกเขาเองก็เรียกยายว่าแม่ทุกคำ ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับหลานของตน โดยหลานได้เล่าให้ฟังว่าล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ครูชายรายนี้ได้ออกอุบายให้หลานของตนไปนวดให้ที่บ้านพักครูตอนใกล้เลิกเรียน พอหลานไปนวดให้ครูก็จะกอดบ้าง จับหน้าอกบ้างแล้วก็ล้วงเข้าไปในกางเกงในจับอวัยวะเพศจนหลานตนกลัวร้องไห้วิ่งกลับบ้าน จนตนและผู้ปกครองหลายๆคนจึงได้รู้ความจริง และได้รวมตัวกันเดินทางมาแจ้งความในวันนี้ซึ่งยังมีอีกหลายคนที่จะมาตามหลัง รวมๆแล้วเด็กนักเรียนที่ถูกครูรายนี้ทำอนาจารก็ประมาณ 13 คน ยอมรับว่าทุกคนโกรธมากยังไงก็จะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะลูกหลานของพวกตนกลัวจนไม่กล้าไปโรงเรียนแล้ว
นางศรี (นามสมมุติ)อายุ 64ปี กล่าวว่าหลานสาวของตนก็เรียนอยู่ชั้นเดียวกับหลานของนางดำ ครูชายคนดังกล่าวก็ออกอุบายให้ไปนวดที่บ้านพักเช่นกันแต่หลานตนเมื่อโดนครูทำอนาจารก็ตกใจกลัวจนวิ่งหนี แล้วล้มหน้าผากถลอกกลับมาบ้าน ที่มาแจ้งความวันนี้ก็อยากให้ตำรวจดำเนินการกับครูชายรายนี้ให้ถึงที่สุด โดยเมื่อช่วงเช้าตนและผู้ปกครองเด็กทั้งหมดได้เข้าไปพบ ผอ.รร.ดังกล่าวแล้ว โดยขอให้มีการลงโทษทางวินัยและย้ายออกนอกพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพราะจากการบอกเล่าของเด็กนักเรียนหญิงบางคนบอกว่าถูกทำอนาจารแบบนี้มาตั้งแต่ ป.2แล้ว ผู้ปกครองทุกคนถือว่าครูชายท่านนี้เป็นอันตรายกับเด็กๆอย่างมากไม่ควรให้ทำหน้าที่ต่อไป โดยทาง ผอ.รร.ก็รับปากว่าจะดำเนินการให้โดยเร็ว
ทางด้าน พ.ต.ท.วีระชัย ประทุมชาติ รอง ผกก.สอบสวน สภ.พนมดงรัก ได้เข้าสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากผู้ปกครองทั้งหมดด้วยตัวเอง มั่นใจว่าจะสมารถเอาผิดครูชายท่านนี้ได้อย่างแน่นอน จึงมอบหมายให้ พ.ต.ต.กัมพล มิกฆเนตร สว.สอบสวน สภ.พนมดงรัก ร้อยเวรเจ้าของคดีลงบันทึกประจำวันไว้และให้ผู้ปกครองทั้งหมดพาลูกหลานนักเรียนหญิงทั้ง 13 รายมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน เพื่อสอบถามรายละเอียดพฤติกรรมของครูชายคนดังกล่าว เป็นข้อมูลในเบื้องต้น จึงจะได้นัดผู้ปกครองและนักเรียนหญิงผู้เสียหายทั้งหมดเข้าไปสอบสวนต่ออัยการ สหวิชาชีพ และนักสังคมสงเคราะห์อีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รร.ดังกล่าวเพื่อขอพบกับท่าน ผอ.รร.แต่เนื่องจากเป็นเวลาเลิกเรียนแล้วท่าน ผอ.ได้เดินทางกลับบ้านแล้วจึงไม่ได้พบ
ภาพ/ข่าว ชัยยา พาละพล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์