สำหรับทริปนี้ เราได้เดินทางไปที่จังหวัดน่าน เลิกแผนการเดินทางของเรา 3 วัน 2 คืน โดยมีแผนหลักๆคือการไปที่ หมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่าน ซึ่งเราเดินทาง ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 63 สำหรับการเดินทาง เราเดินทางต้นทางจากจังหวัดสุรินทร์โดยรถทัวร์ นั่งรถทัวร์จากจังหวัดสุรินทร์ไปลงที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดน่าน สำหรับจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่เงียบสงบ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 1472 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยอำเภอต่างๆ คือ อำเภอเวียงสา อำเภอสันติสุข อำเภอบ่อเกลือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอสองแคว และอำเภอภูเวียง ประชากรน่านส่วนใหญ่ มาจากล้านช้างหรือชาวลาว จังหวัดน่านมีทิศเหนือติดกับประเทศลาว ทิศใต้ติดกับจังหวัดอุตรดิตถ์ ทิศตะวันออกติดกับประเทศลาว และทิศตะวันตกติดกับจังหวัดพะเยาและแพร่ ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีเทศกาลประจำปีหรือประเพณีประจำปี เช่น เทศกาล ผ่อดอกชมพูภูคา งานประเพณีหกเป็งนมัสการพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง งานประเพณีนมัสการสรงน้ำพระเจ้าทองทิพย์ งานประเพณีแปดเป็งไหว้สาพระธาตุเขาน้อย งานแข่งเรือประเพณีฉลองงาช้างดำจังหวัดน่าน งานเทศกาลส้มสีทองและงานกาชาดจังหวัดน่าน เป็นต้น
วันที่ 1 เราเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อขับไปที่หมู่บ้านสะปัน ระยะทางจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 96 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางอำเภอเมืองสันติสุขบ่อเกลือ เส้นทางส่วนใหญ่เป็นเส้นทางบนเขา ซึ่งหากจะเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ควรเลือกรถให้เหมาะกับการเดินทางขึ้นเขาเช่นรถที่มี CC สูงหรือรถที่มีเกียร์ เนื่องจากบางจุดเป็นเส้นทางลาดชัน แต่ระหว่างทางก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติตลอดเส้นทาง มีสถานที่ให้แวะถ่ายรูปหรือชมวิวได้เช่น ถนนเลข 3 ถนนลอยฟ้า เป็นต้น ซึ่งระหว่างทาง สองข้างทางจะเป็นวิวภูเขาเขียวขจี สวยงาม เห็นแล้วสดชื่น สำหรับบ้านสะปัน เกิดขึ้นมาหลายร้อยปีแล้ว โดยการนำของเจ้าพ่อพญาตื๋น เมื่อก่อเกิดเป็นหมู่บ้านเล็กๆ หลังจากนั้นมีประชากรเข้ามาอยู่เพิ่ม สามารถจัดเป็นเขตการปกครองได้ ปีพศ 2520 มีคนเข้ามาอยู่อาศัย และแบ่งบ้านออกเป็น 6 สาขา คือ บ้านเด่น บ้านห้วยข่า บ้านนาโป่ง บ้านนาปู และบ้านฐาน ทำไมถึงชื่อบ้านสะปัน เพราะมีลำน้ำปัน ไหลผ่านไปยังหมู่บ้าน ภายในหมู่บ้านสะปัน มีจุดที่ต้องเช็คอินหลักๆคือสะพานบ้านสะปัน ซึ่งมีป้ายแหล่งโอโซนชั้นดีของบ้านสะปัน จะเห็นวิวภูเขา รอบหมู่บ้าน น้ำตกสะปัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งเช็คอินของนักท่องเที่ยว วัดบ้านสะปัน ตั้งอยู่บนเขา เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมักมากางเต็นท์เนื่องจากมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เห็นทั้งวิวภูเขาและทุ่งนา ภายในหมู่บ้านสะปันยังมีรีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือที่พักเยอะแยะมากมาย แต่หากจะมาพักที่หมู่บ้านสะปัน ต้องทำการจองเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีที่ให้นอนนะครับ ภายในหมู่บ้านเงียบสงบมาก ชาวบ้านเป็นกันเอง และต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดี บอกเลยว่าวันเดียวไม่พอจริงๆครับที่หมู่บ้านสะปัน หากต้องการเก็บเกี่ยวบรรยากาศ และความสุข อาจต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้อุดมไปด้วยความสุข และธรรมชาติ เป็นบ้านที่น่าอยู่มาก สำหรับเรา หมู่บ้านสะปัน เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยภูเขา ธรรมชาติ เป็นหนึ่งในแหล่งโอโซนชั้นดีของประเทศไทย เมื่อเดินทางไปถึงหมู่บ้านสะปันได้เช็คอินเข้าที่พัก และได้ออกมาถ่ายรูป ตามหมู่บ้านและจุดชมวิวต่างๆของหมู่บ้าน รวมถึงน้ำตกสะปัน ที่มีความสวยงาม และน่าค้นหา หลังจากเที่ยวในหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว ก็กลับที่พัก เพื่อกินข้าวและพักผ่อนต่อไป
วันที่ 2 หลังจาก check out เราเดินทางกลับ ไปยังตัวเมืองน่าน ซึ่งระหว่างทางได้แวะถ่ายรูปกับสถานที่ต่างๆที่สวยงาม เมื่อถึงเมืองน่าน ก็เช็คอินเข้าที่พัก เก็บของและสัมภาระ แล้วออกมาว่ายน้ำผ่อนคลายที่สระว่ายน้ำของโรงแรม เมื่อถึงเวลายามเย็น ได้ออกมาเดินถนนคนเดินของจังหวัดน่าน สำหรับถนนคนเดินน่าน จะมีทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณวัดภูมินทร์ อยู่ที่ถนนผากอง อยู่ใจกลางเมืองน่าน เป็นถนนคนเดิน ที่มีการขายอาหารเป็นหลัก และอาหารพื้นถิ่นให้เลือกรับประทานหลากหลาย สามารถซื้อนั่งทานได้ที่ลานวัดภูมินทร์โดยมีบริการสื่อและขันโตกสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานอาหาร และมีสินค้างานฝีมือต่างๆ ให้เลือกซื้อ เช่น เสื้อผ้า ของที่ระลึก รูปภาพปู่ม่านย่าม่าน เสื้อยืดลายต่างๆ ซึ่งติดอยู่กับวัดภูมินทร์ เป็นวัดชื่อดัง และเป็นสถานที่ที่สวยงาม เราได้พบกับของน่ากินเยอะแยะมากมาย อาหารพื้นถิ่น อาหารที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง เราซื้อของพื้นถิ่นกลับมาที่โรงแรม เช่นข้าวซอย หมูมะแขว่น เป็นต้น การขับรถเที่ยวในเมืองน่านไม่ใช่เรื่องยากเลย และการสัญจร การจราจรก็เป็นไปอย่างมีระเบียบ สำหรับ ตลาดถนนคนเดินเมืองน่าน จะมีสถานที่สำหรับนั่งทานอาหาร เป็นสำรับ อยู่บริเวณข้างวัดภูมินทร์ ซึ่งได้บรรยากาศที่ดีมาก น่าเสียดายที่ไม่สามารถทานอาหารพื้นที่จนครบได้ เนื่องจากมีอาหารที่หลากหลายมาก ไม่รู้จะทานอะไรดี บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองน่าน เป็นบรรยากาศที่ดีมาก หลังจาก ทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว ก็พักผ่อน
วันที่ 3 หลังจาก Check Out ออกจากโรงแรมแล้ว ก็ได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ของตัวเมืองน่าน เช่น วัดภูมินทร์ สำหรับวัดภูมินทร์ ตั้งอยู่ที่บ้านภูมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน เมื่อก่อน เดิมชื่อว่า วัดพรหมมินทร์ ซึ่งเป็นวัดที่แปลกกว่าวัดอื่นๆ คือโบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกัน เป็นประตูไม้ทั้ง 4 ทิศ นอกจากนี้ฝาผนังยังแสดงถึงชีวิต และวัฒนธรรม ของยุคก่อนที่ผ่านมา ตามประวัติเมืองน่าน วัดภูมินทร์สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 ภายในวัดภูมินทร์ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พระอุโบสถจตุรมุข ซึ่งสวยงามไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย พระอุโบสถจตุรมุขนี้ ได้สันนิษฐานโดยกรมศิลปากรว่า เป็นพระอุโบสถ หลังแรกของประเทศไทย สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง คือภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นจิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงเขียนขึ้นในช่วง รัชกาลที่ 4 ภาพกิจกรรมทั้งหลายนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์จังหวัดน่าน เราได้ขับรถรอบเมืองชมความสวยงาม ของตัวเมืองน่าน แวะทานข้าวที่ร้านอาหารเวียดนามแห่งหนึ่ง ตกเย็นเราไปที่ถนนคนเดินเมืองน่านอีกครั้งเพื่อซื้อของฝาก ซึ่งมีของฝากให้เลือกเยอะแยะมากมาย หลังจากซื้อของฝากเรียบร้อยแล้ว เราได้นำรถมอเตอร์ไซค์ที่เช่า ส่งคืน และนั่งรถทัวร์เพื่อกลับบ้าน
สำหรับทิปน่าน บ้านสะปันก็ได้สิ้นสุดแล้ว เป็นทริปที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ได้อยู่กับธรรมชาติที่สวยงาม สูดโอโซนเข้าไปเต็มปอด น่านเป็นเมืองที่น่าอยู่และสวยงามมาก หากมีโอกาสก็อยากกลับไปเยือนอีกครั้ง ยังเหลือสถานที่ที่ยังไม่ได้เที่ยวอีกเยอะเลย
เครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยนักเขียน