วอนช่วยหนุ่มสุรินทร์ป่วยโรคตุ่มน้ำพองสุดทรมาน เครียดเคยเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวตอนนี้ทำงานไม่ได้ พ่อแม่แก่เฒ่าต้องมานั่งเฝ้าดูแล ฐานะยากจนไร้ที่พึ่ง อยากไปรักษาตัวที่รพ.ศิริราช ตามคำแนะนำแพทย์ ให้อาการดีขึ้น
ศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 08.08 น.
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 15 บ้านหนองคู ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งเป็นบ้านของนางศรีแก้ว ต้นทอง อายุ 56 ปี และนายสมศักดิ์ ต้นทอง อายุ 62 ปี สองสามีภรรยา ที่ต้องหยุดงานรับจ้างเพื่อมาดูแล นายเกียรติศักดิ์ ต้นทอง อายุ 22 ปี ลูกชายที่ป่วยเป็นโรคตุ่มน้ำพอง เป็นแผลทั่วลำตัวและใบหน้า ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มานานกว่า 2 เดือน อาศัยเบี้ยคนชรา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐประทังชีวิต อดบ้าง กินบ้าง ตามยถากรรม บางวันก็มีเพื่อนของผู้ป่วยและชาวบ้านช่วยแบ่งปันอาหารมาให้บ้าง ด้วยความสงสาร และยังมีค่างวดรถจยย. เดือนละ 1,700 บาท ที่จะต้องจ่าย พร้อมกันนี้ยังมีหลานสาวเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ที่จะต้องคอยดูแล
นายเกียรติศักดิ์ เล่าว่า ตอนนี้ตนทรมานมากอยากเดินทางไปรักษาตัวอยู่ที่รพ.ศิริราช เพราะเชื่อว่ามีแพทย์เฉพาะทางที่เก่งทางด้านโรคที่ตนเป็นช่วยรักษาให้ได้ เมื่อก่อนตนทำงานเป็นช่างทาสี ได้ค่าจ้างวันละ 400 บาท ไปทุกที่ทั่วประเทศ หลังจากล้มป่วยหารายได้จุนเจือครอบครัวไม่ได้ รู้สึกเครียดมาก นอนไม่หลับเลย บางครั้งก็คิดน้อยใจในชะตาชีวิตตัวเอง เกิดมาทำไมต้องมาเป็นโรคเช่นนี้ แต่ก็สร้างกำลังใจตัวเองโดยการหันไปมองหน้าแม่ที่คอยดูแลอยู่
นางศรีแก้ว ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ตนมีลูก 4 คน ลูก 3 คนต่างออกไปมีครอบครัวกันหมดต่างคนก็ลำบาก ตอนนี้อาศัยอยู่ในบ้านกัน 4 คน มีตน สามี นายเกียรติศักดิ์ ลูกชายคนที่ 4 และหลานสาวคนเล็กกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ก่อนหน้านี้นายเกียรติศักดิ์ทำงานหาเงินได้ก็จะส่งให้พ่อแม่ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน พอลูกมาเป็นแบบนี้ครอบครัวก็ลำบาก นายเกียรติศักดิ์มีอาการเริ่มแรกคือ เป็นแผลที่บริเวณจมูกทีแรกนึกว่าเป็นสิว ก่อนจะลามที่ใบหน้า ศีรษะ และตามตัวจึงไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ไปรักษาตามคลินิกและอีกหลายโรงพยาบาลก็ไม่หาย จนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาอาการเริ่มทรุดหนักน้ำเหลืองเริ่มไหลออกเยอะขึ้น ซึ่งคุณหมอด้านโรคผิวหนังเองก็แนะนำให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ตนไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน ต้องวิ่งหายืมเงินจนเกิดอุบัติเกตุขี่รถจยย.ไม่เฉี่ยวชนเขา ต้องหาเงินไปซ่อมรถให้เขา และตนเองก็มีโรคหัวใจด้วย
“ช่วงนี้ลูกชายตนอาการหนักขึ้น 4-5 วันที่ผ่านมา ก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ต้องคอยดูและเช็ดตัวให้ตลอดโดยใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือทำความสะอาดแผลวันหนึ่ง 3 รอบ ซึ่งน้ำเกลือ 1 ขวด ใช้ได้ 2 วัน โดยไปเบิกเอาที่ รพ.สต. ตนกลัวลูกชายจะเดินไม่ได้ เลยต้องคอยประคองนั่ง และลุกเดินบ้าง แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะลูกจะเจ็บแผล ให้นอนนานก็ไม่ได้เพราะน้ำเหลืองจะไหลเต็มที่นอน ซึ่งลูกชายนอนไม่หลับเลยเพราะเครียดมาก สงสารแม่ที่ต้องคอยเลี้ยงดู ตนต้องอยู่กับลูกตลอดเวลาดูแลให้ดีที่สุด ตอนนี้ครอบครัวก็ยังติดหนี้ ธกส.อยู่กว่า 3 แสนบาท และหนี้โครงการเงินล้านยังไม่รู้อนาคตวันข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป” นางศรีแก้ว กล่าว
ด้านนายเพชร คงรินทร์ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองคู หมู่ที่ 15 เปิดเผยว่า ตนได้ประสานให้ทางรพ.สต. และอสม.ประจำหมู่บ้านเข้ามาดูและตลอด โดยในวันที่ 2 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ตนจะเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประสานหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนในด้านการเงินหากขัดสนสามารถมาหยิบยืมเงินออมประจำหมู่บ้านได้เลย จะมีดอกเบี้ยหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกัน
หากท่านใดต้องการแบ่งปันน้ำใจสามารถเดินทางมาบริจาคสิ่งของได้ด้วยตัวเองที่บ้านหนองคู เลขที่ 16 หมู่ที่ 15 ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ โทร. 082 872 7572 นางศรีแก้ว ต้นทอง (แม่) หรือ สามารถโอนเงินช่วยเหลือครอบครัวได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน สาขาศีขรภูมิ เลขที่ 052-6-208351-33 ชื่อบัญชี นางศรีแก้ว ต้นทอง
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%