ผู้นำท้องถิ่นใน อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ทำพิธีบวงสรวงพระหมอครูปราสาทช่างปี่ เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและโรคภัย และไล่โควิด-19 ตามความเชื่อโบราณ พร้อมสวดเพื่อขอพรให้ชาวไทยประสบความสุข ความเจริญ
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 64 ที่ปราสาทช่างปี่ บ้านช่างปี่ ม.1 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ พร้อมผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล 14 ตำบล 2 เทศบาล และผู้นำชุมชน ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงพระหมอครู ประจำอโรคยศาล หรือสถานพยาบาลหนึ่งในจำนวน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (พ.ศ.1723 – 1761) แห่งอาณาจักรขอม โปรดให้สร้างขึ้นทั่วราชอาณาจักรในขณะนั้น เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและโรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยมีหมอพราหมณ์เป็นผู้นำประกอบพิธีกรรม จัดเครื่องสักการบูชาองค์ปราสาทช่างปี่อย่างครบถ้วน พร้อมนำสวดเพื่อขอพรให้ชาวไทยทั่วประเทศประสบแต่ความสุข ความเจริญ และปลอดภัยจากโรคโควิด-19 โดยทั่วกัน
นายอำเภอศีขรภูมิ กล่าวว่า พิธีกรรมวันนี้เป็นความเชื่อของชาวสุรินทร์ โดยเฉพาะชนเผ่าเขมร จึงร่วมกันทำพิธีขจัดปัดเป่าโรคร้ายจากโควิด-19 ตามความเชื่อ ซึ่งอำเภอศีขรภูมิเป็นเมืองที่มีปราสาทที่เป็นอโรคยศาล ที่ได้สร้างขึ้นเมื่อสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ใช้ในการรักษา ก็เกิดความเชื่อว่าถ้าหากได้มารักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วย หรือมีโรคภัยร้ายแรงต่างๆ ก็จะมาขจัดปัดเป่าและสร้างขวัญกำลังใจ วันนี้ก็ได้ทำแล้ว ชาวบ้านก็ได้รับความพึงพอใจและก็อบอุ่นใจขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อก็ไม่เสียหายอะไร ได้รับการยอมรับจากคนพื้นถิ่น ทำได้อย่างตามประเพณีทุกประการ
สำหรับประวัติความเป็นมาของปราสาทช่างปี่ ตั้งอยู่ที่บ้านช่างปี่ หมู่ที่ 1 ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน ก่อด้วยศิลาแลง และหินทราย มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้าง คือ ปราสาทประธาน วิหารกำแพงแก้ว ซุ้มประตู สระน้ำ โบราณสถานแห่งนี้เป็นอโรคยศาล หรือสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจำนวน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (พ.ศ.1723 – 1761) แห่งอาณาจักรขอม โปรดให้สร้างขึ้นทั่วราชอาณาจักร ตามความที่ปรากฏในจารึกปราสาทตาพรหม ประเทศกัมพูชา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม 2478 และเล่ม 98 ตอนที่ 104 วันที่ 30 มิถุนายน 2524 เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ 30 ตารางวา.