ภูมิภาค
จนท.บุกตรวจสอบสร้างสำนักปฏิบัติธรรมรุกป่า อ้างทหารอนุญาต
วันพฤหัสบดี ที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 09.21 น.
คลิกที่นี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภสิทธิ์ ถีราวุฒิ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.สวนผึ้ง พร้อม ร.ท.เกษม คารมาตร จนท.ตรวจสอบที่ดินราชพัสดุ, นายสุรินทร์ อุทัยนา จนท.หน่วยป้องกันรักษาที่ รบ.2(บ่อหวี) , จนท.สภ.สวนผึ้ง , นายดำรงค์ ทองชัย กำนันตำบลสวนผึ้ง , ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านทุ่งแฝก และนายจันทรา บุญเลิศ ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) อ.สวนผึ้ง ตลอดจนจนท.ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณรอยต่อ หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง บ้านทุ่งแฝก(ทุ่งไม้แดง) และ หมู่ 2 ต.ตะนาวศรี บ้านท่ามะขาม(วังจรเข้) อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลังนายจันทรา บุญเลิศ ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) อ.สวนผึ้ง พร้อมชาวบ้านและจิตอาสาป้องกันไฟป่าของหมู่บ้าน ได้ร้องเรียกไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นเส้นทางแนวกันไฟป่า และใช้เป็นเส้นทางในการลาดตระเวนและควบคุมป้องกันไฟป่าทุกปี แต่เส้นทางถูกปิดกั้นโดยนำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์มาปิดกั้นเส้นทาง พร้อมมีการตั้งเสาและปักป้าย”สำนักวิปัสสนา ทศพลญาณมังคลาราม” รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นป่าอยู่ในเขตราชพัสดุ และเป็นพื้นที่ป่าโดยอุดมสมบูรณ์
จากการตรวจสอบพบพระภิกษุได้ขนย้ายสิ่งของ และข้าวของรวมถึงรูปปั้นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มาตั้งปิดทางแนวกันไฟ พร้อมมีการเจาะบ่อบาดาล ตั้งแท้งน้ำ 2 แท้ง และมีการนำเครื่องปั่นไฟในบริเวณดังกล่าว เพื่อเตรียมเปิดเป็นสำนักปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ยังพบพระภิกษุ กำธร บุญประกอบ อายุ 37 ปี จำพรรษาอยู่ที่วัด สิทธิสังฆาราม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งให้ข้อมูลว่า ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้มาพำนักอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เพื่อจัดสร้างเป็นสถานที่ภาวนาปฏิบัติธรรม โดยได้ติดต่อกับทางหัวหน้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอ.สวนผึ้ง เพื่อนำพาเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ พร้อมได้ให้เบอร์ติดต่อกับทางจนท.ป่าไม้ จึงได้ติดต่อไปยังเบอร์ดังกล่าว และทราบว่า เบอร์ดังกล่าว เป็นของ พระครูปลัดธนกร กตปุญโญ จำพรรษาอยู่สำนักสงฆ์ห้วยผาก
พระครูปลัดธนกร กตปุญโญ ให้ข้อมูลว่า จุดที่มีการนำปักป้าย”สำนักวิปัสสนา ทศพลญาณมังคลาราม” ได้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ โดยเจ้าของพื้นที่ถือใบ ภ.บ.ท.5 มอบให้สร้าง เพื่อบำรุงพื้นป่า และป้องกันคนบุกรุกป่า โดยขณะนี้ได้ใช้ชื่อลูกชายของอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในพื้นที่ ทำเรื่องขอเช่ากับทางธนารักษ์ราชบุรี ซึ่งอ้างว่า ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานทหาร ให้พื้นที่ 7 ไร่ และขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อจัดตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม โดยจากการตรวจสอบ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เช่าพื้นที่ แต่มีการขนย้ายสิ่งของเข้ามาในพื้นที่ และยังมีการขุดเจาะบ่อบาดาล โดยไม่ได้มีการทำเรื่องขออนุญาตจากสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลภาค 8 และจากการตรวจสอบผู้ถือครองพื้นที่ ภ.บ.ท.5 ยังไม่มีความแน่ชัดว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากใบที่นำมามอบให้ทางจนท.นั้น มีเพียงใบชำระภาษีดอกหญ้า หรือภาษีบำรุงท้องที่ เมื่อนานมากแล้ว ส่วนเหตุผลของการจัดตั้งสถานปฏิบัติธรรม เนื่องจากผู้ที่ทำเรื่องขอเช่าพื้นที่ให้พระภิกษุสงฆ์มาปฏิบัติธรรม เพื่อทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ ซึ่งย้อนแย้งในความเป็นจริง การสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆในป่ามักจะต้องทำลายป่าเดิมเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นมาแทน
นายสุรินทร์ อุทัยนา จนท.หน่วยป้องกันรักษาที่ รบ.2(บ่อหวี) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ ได้มีการให้ขนย้ายสิ่งของทั้งหมดที่นำมาตั้งไว้ออกจากพื้นที่ป่าดังกล่าว เพราะยังไม่มีการถางป่า หรือทำอะไรที่ให้เกิดความสูญเสียกับพื้นป่า เพียงแต่นำสิ่งของมาตั้งไว้เพื่อจับจองพื้นที่ จึงให้ดำเนินการขนย้ายสิ่งของทั้งหมดออกไปทันทีภายในวันนี้
นายศุภสิทธิ์ ถีราวุฒิ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.สวนผึ้ง กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวถือยังไม่มีการบุกรุกและทำลายป่า มีเพียงการนำพระพุทรูปและข้าวของมาตั้งจับจองพื้นที่เท่านั้น ส่วนการเจาะบ่อบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาตสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลภาค 8 ซึ่งตนจะดำเนินการส่งเรื่องให้ทางสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลภาค 8 เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป พร้อมจะแจ้งไปยังทางสํานักพุทธศาสนาว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการขออนุญาตจัดตั้งสถานปฏิบัติธรรมได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้จะให้ทางผู้บุกรุกป่า นำสิ่งของทั้งหมดออกไปจากพื้นที่ป่าไม้ภายในวันนี้ เพราะยังไม่มีความชัดเจนในการขออนุญาตถูกต้องตามกฏหมายในเรื่องต่างๆทั้งหมด เพื่อความสบายใจของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้
คลิกที่นี่