ศึกโซเชียล กระแสสังคมเริ่มพลิกฝั่ง เพจบัญชาเมฆ ปั่นกระแสถึงเมืองจีน จากโดนเปิดโปง บัวขาว มีลูก เป็นเมียเรียก 25 ล้าน แฟนคลับเริ่มประณาม ฝ่ายหญิง จนเก๋ต้องออกโรงขู่ลอยๆ พูดให้ดีๆ ไม่งั้นจะได้ไม่คุ้มเสีย !?!?
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
จากกรณีที่ “น้องเก๋” น.ส.อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ พร้อมทนายไปยื่น ฟ้อง บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดมวยไทยชื่อดังแห่งยุค เพื่อให้อีกรับรองบุตรคือ “น้องมีตังค์” หรือ “น้องข้าวหอม” เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ให้่เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ซึ่งทำให้สังคมเพิ่งทราบว่าบัวขาวมีลูกและภรรยามานานแล้ว
ข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปเมื่อ 29 เม.ย.64 ที่ผ่านมา หลังจากช่วงเช้า น.ส.อัญวีณ์ ไปยื่นฟ้องศาลพร้อมให้ข่าวออกสื่อ ช่วงบ่ายมีการสอบถามไปยังตัว นายธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผจก.ส่วนตัว และผู้ดูแลผลประโยชน์ของบัวขาว เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธให้ความเห็นใดๆ คงบอกเพียงเป็นเรื่องส่วนตัว ต้องให้บัวขาวออกมาพูดเอง และในช่วงเย็นวันเดียวกัน มีสื่อมวลชนเดินทางไปสอบถามยอดมวยถึงบ้านเกิดที่ จังหวัดสุรินทร์ บ้านเลขที่ 19 หมู่ 4 บ้านสองหนอง ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ
ซึ่งเจ้าตัวเอง ยังอยู่ในอริยาบทนอนเล่นบนเปลใต้ถุนบ้านแบบสบายๆ และตอบคำถามเพียงสั้นๆว่า ตนรู้เรื่องดังกล่าวแล้ว ขอเวลาอีกสักนิด จะให้คำตอบต่อสังคม ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า น้องมีตังเป็นลูกของตนจริง แต่ก็ดูแลมาตลอด ซึ่งตอนนี้ยังไม่ขอพูดอะไร ขออยู่เฉยๆ รอทางทีมงานก่อน
วันเดียวกันในช่วงราวๆบ่ายสองโมง ทีมงานของบัวขาว ก็เริ่มโพสต์ข้อความและภาพ ผ่านเพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ออกเผยแพร่โดย ไม่มีข้อความคำพูดใดๆของบัวขาว เพียงแต่ โฟสต์ เฉพาะประเด็นสำคัญๆ เพื่อให้ แฟนคลับและผู้ติดตามกว่า 4.3 ล้านคนได้เข้าใจง่าย ด้วยใจความว่า
“ตามข่าวที่ออกมาตามสื่อต่างๆตอนนี้ครับ -เรียกค่าเลี้ยงดู 25 ล้านบาท -พี่บัวไม่เคยเลี้ยงดูบุตร -พี่บัวไม่เคยสนใจลูก -ลูกไม่ได้เจอพ่อเลย -พี่บัวไม่ส่งเลย -คุณแม่เลี้ยงคนเดียว เเละเห็นใจพี่ทนายแถมเจอเรื่องแบบนี้ตอนยังเล็ก อะไรอื่นๆอีกมากมายก็ให้กำลังใจ พี่บัวขาวกับลูกสาวขอให้ผ่านเรื่องราวนี้ไปให้ได้ครับ”
รวมทั้งยังยอมรับตามเนื้อข่าว ด้วยการโพสต์รูปของ ยอดมวยไทย กับเด็กหญิง ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นบุตรสาว พร้อมสูจิบัตรใบแจ้งเกิด
ไม่เพียงเท่านั้น นางกัญญารัตน์ บัญชาเมฆ พี่สาวของบัวขาว ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดและทราบเรื่องดังกล่าวได้ดี ยังให้สัมภาษณ์สื่อ ยืนยันเป็นเรื่องจริง พร้อมเพิ่มข้อมูลอีกด้วยว่า เก๋ ยังเคยนำน้องมีตังค์มาให้ตนเลี้ยง ได้ 2-3 เดือน ก่อนจะมารับกลับไปเลี้ยงเอง ในส่วนที่มีกระแสข่าวขอค่าเลี้ยงดู บัวขาวจ่ายไปเยอะ 5 ปีหมดไป 20 ล้านแล้ว ตนไม่รู้ในตัวเลขแน่ชัด รู้แต่ว่าบัวขาวดูแลลูกสาวมาตลอด บ้านที่กรุงเทพนั้นบัวขาวก็ซื้อให้
และช่วงนี้บัวขาวรายได้ลดลงมาก รายได้หลักจากงานโชว์ตัวต่างประเทศก็ไม่มี เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับต้องดูแลค่ายมวยของบัวขาวเองที่เชียงใหม่ ลูกค้าต่างชาติก็หาย เพราะเข้าประเทศไม่ได้ และตนไม่ทราบเรื่องนี้ว่าทางเก๋ จะเรียกร้องเงินก้อนหนึ่ง โดยขอให้เอาที่นาร้อยกว่าไร่ที่สุรินทร์ไปขาย
พี่สาวบัวขาว ยังกล่าวอีกว่า ตนอยากให้ เก๋นั้นพูดคุยตกลงกันกับทางบัวขาวก่อนว่าต้องการอะไร เพราะถ้าจะเรียกร้องขอค่าเลี้ยงดูถึง 25 ล้านบาท ทางบัวขาวคงไม่มีเงินพอที่จะให้ หรือถ้าจะเอาคงต้องขายที่ขายรถให้กัน พร้อมยังบอกอีกว่าถ้าไม่พร้อมที่จะดูแลน้องมีตังค์ ทางตนก็ยินดีเอาน้องมาเลี้ยงดูให้
ไม่เพียงเท่านั้น ในเนื้อหาของโพสต์ยังมี การเอ่ยถึงประวัติน้องเก๋ ว่าเคยมี สามีและมีลูกติดมาแล้วด้วยอีกหนึ่งคน หากจะขอค่าเลี้ยงดูบัวขาว ก็ควรจะไปขอค่าเลี้ยงดูจากสามีเก่าอีกด้วยเช่นกัน
ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้กระแสผู้สนใจ ซึ่งช่วงแรกส่วนใหญ่มองบัวขาวไปในแง่ลบ ด้วยฐานะที่ยอดมวยคนดังปกปิดไม่ยอมรับเลี้ยงดูบุตรและภรรยาสาว แต่เมื่อมีการเปิดเผยตัวเงินที่ฝ่ายหญิงเรียกร้อง เป็นจำนวนสูงถึง 25 ล้านบาท กระแสคอมเม้นท์ ความเห็นกองเชียร์และผู้คนส่วนใหญ่ในโลกโซเชียล ก็เริ่มหันไปให้ความเห็นใจบัวขาว รวมทั้งเริ่มประณามน้องเก๋แฟนสาวกันมากขึ้น
ล่าสุดในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจาก เก๋ ผู้เป็นภรรยานอกสมรส เผยสาเหตุว่า เพียงอยากให้บัวขาวจดทะเบียนรับรองบุตรว่า “จนวันนี้ลูก 5 ขวบ กลัวลูกจะมีปม เมื่อเราอยู่ด้วยกัน 3 คน จนช่วงปี 2560 บัวขาวย้ายไปทำค่ายมวยที่เชียงใหม่ พร้อมรับปากว่าจะส่งเงินมาให้ แต่ก็เพียงแต่ไปๆมาๆ
“หนูคิดถึงพี่นะ อยากให้นึกถึงความรู้สึกของลูกบ้าง เรื่องค่าเลี้ยงดูขอให้รับผิดชอบบ้าง เวลาทวงก็บอกว่าไม่มี เก๋เป็นคนหาเงินเลี้ยงลูกเอง เราไม่ได้มีเจตนาจะมาพูดคุยให้ใครเสียหาย เพราะเราก็ครอบครัวเดียวกัน แต่พี่บัวกลับบอกว่า เขาไม่มีตังค์ มีเงินไม่พอ”
กรณีดังกล่าว เมื่อมีการสอบถามไปยังบัวขาว ที่ จ.สุรินทร์ ยอดมวยไทย ให้เหตุผลว่า ตนเองยังงง และอยากทราบว่าทางแม่ของเด็กมีจุดประสงค์อะไร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนก็ดูแลลูกมาตลอด แต่ช่วงนี้อาจจะดูแลได้ไม่มากนัก เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี พร้อมยอมรับว่าน้องมีตังค์เป็นลูกสาวของตนจริงๆ ประกอบกับช่วงนี้ที่ไม่ได้ไปหา เพราะช่วงนี้ตนเองกำลังทำธุรกิจรีสอร์ตที่เชียงใหม่อยู่ ก็เลยไม่ได้ไปหา บวกกับช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ระบาด ตนจึงไม่ได้เดินทางไปไหนเลย อยู่บ้านที่ จ.สุรินทร์ มาเกือบ 2 เดือนแล้ว และยังฝากบอกกับทีมข่าวอีกว่าถ้าโควิด-19 ซาลงเมื่อไหร่จะได้เห็นตนขึ้นชกมวยแน่ๆ ให้ติดตามชม
หลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปเพียงวันเดียว ได้มีการเจาะลึกเข้าไปติดตามทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของทั้งสองฝ่ายกันมากขึ้นในฐานะ บัวขาว เป็นบุคคลสาธารณะทางสังคม
มีการเข้าไปดูโพสต์ของ “เก๋ อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์” ภรรยานอกสมรสของ บัวขาว ลงโพสต์ว่า “ลูกสาวเคยบอกว่า อยากมีบ้านใหม่ อยากได้อ่างจากุซซี่ และเตียง 2 ชั้น พูดแบบนี้มา 2 ปี จนปัจจุบันน้องมีตังค์อายุ 5 ขวบ
“เมื่อถามว่า : ถ้าถึงวันเกิดน้องอยากได้อะไรเป็นของขวัญค่ะ?
มีตัง: บ้านใหม่ กุชชี่ เตียง2ชั้น นร้า นร้า นร้า แล้วก็หลับไป
พูดมา2ปีแล้ว คงเป็นความใฝ่ฝันที่อยากได้จริงๆ….”
คำพูดเล่นๆของเด็ก5ขวบ
มันทำให้ผู้ใหญ่อย่างเรามีแรงผลักดัน <สู้>”
และหลังจากกรณีดังกล่าวกลายเป็นข่าวในสังคม รวมทั้งยังเป็นที่สนใจในต่างประเทศ อย่างเช่นที่เมืองจีน โดยข่าวได้รับการเผยแพร่เป็นเนื้อหาภาษาจีน ซึ่งถือว่ามีแฟนคลับของ บัวขาว เป็นจำนวนมาก โดยข้อความจากแฟนเพจดังกล่าวระบุว่า “ข่าวไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว แฟนคลับชาวจีนส่งมาให้กำลังใจพี่บัว” ซึ่งกระแสความเห็นจำนวนไม่น้อยทั้งไทยและเทศ หันมาโจมตีฝ่ายหญิง ผู้เป็นแม่เด็ก
ล่าสุดใน เฟซบุ๊กของ “เก๋” อัญวีณ์ ซึ่งเป็นภรรยาของ บัวขาว เริ่มแสดงความไม่พอใจ พร้อมได้โพสต์ข้อความว่า
“FB เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราก็ จริงอยู่ที่เราจะโพสอะไรก็ได้ แต่..ควรจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง..ควรเลือกพูดให้ดีค่ะ ไม่งั้นอาจกลายเป็น..ได้ไม่คุ้มกับที่เสีย!! ละเอียดอ่อนมากๆ”