สาวยากจน ติดคุกฟรี 21 เดือน ไร้เงินประกัน ทนายอาสาเผย ซ้อนจยย.แฟนหนุ่ม ไม่รู้พาไปส่งยาบ้า หลังถูกจับปฏิเสธมาตลอด แต่ต้องนอนคุกเพราะไม่มีเงินประกันตัว กระทั่งศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
สุรินทร์- เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2564 ที่อาคารบูรณาการยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ถนนเลี่ยงเมืองสายใน ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา นำ น.ส.สุพรรณษา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมครอบครัวเข้ายื่นคำร้องขอเงินเยียวยาตาม พรบ.ช่วยเหลือ ผู้ต้องหาของกระทรวงยุติธรรม
- อ่าน ผบ.ตร.แจงไม่ได้สลายชุมนุม แค่จับกุมคนทำผิด ซัดม็อบคุมกันเองไม่ได้
- อ่าน สื่อโดนจับหลังทำข่าวม็อบ ผบช.น. แจงถ้ามาทำหน้าที่โดยสุจริตก็รับฟัง
โดยมีนายโยธิน บัวแก้ว ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ จัดเจ้าหน้าที่เพื่อรับเรื่องเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาโดยจะนำเรื่องคำร้องขอส่งให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายคำสิงห์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำลูกความผู้ที่ได้รับผลกระทบมาที่สำงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ยืนคำร้องขอรับเงินเยียวยา ตาม พรบ.ช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือจำเลย ของกระทรวงยุติธรรม
ส่วนทางคณะอนุกรรการจะพิจารณาวินิจฉัยว่าจะช่วยเหลือได้หรือไม่ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนยุติธรรม ส่วนระเวลาดำเนินงาน ได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ทราบว่าทำให้เร็วที่สุดแต่ไม่ทราบว่าจะใช้เวลากี่เดือนแต่จะดำเดินการให้เร็วที่สุด
สำหรับที่มาของคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2561 น.ส.สุพรรณษา ซ้อนรถจักรยานยนต์กับแฟนหนุ่ม คือ นายศุภกิจ (สงวนนามสกุล) ในตอนนั้นอายุ 21 ปี ที่คบกันได้ไม่กี่เดือน เพื่อไปทำธุระ
แต่แฟนหนุ่มกลับพาไปส่งยาบ้า 41 เม็ดให้กับสายตำรวจที่ล่อซื้อ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิด “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
ซึ่งแฟนหนุ่มที่เป็นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและปฏิเสธว่าน.ส.สุพรรณษา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยแฟนหนุ่มถูกศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปี 6 เดือน ขณะที่น.ส.สุพรรณษายืนยันปฏิเสธมาตลอดแต่ครอบครัวไม่มีเงินประกันตัว จนถูกคุมขังในเรือนจำกลางสุรินทร์กว่า 8 เดือน ระหว่างสู้คดี
นายคำสิงห์เผยต่อว่า หลังถูกจับตนอาสาเข้าไปช่วยเหลือทางกฎหมายฟรี เนื่องจากครอบครัวน.ส.สุพรรณษา มีฐานะยากจน จนศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องและได้รับอิสรภาพกลับคืนมา แต่ต่อมาอัยการได้ยืนอุทธรณ์ต่อ โดยศาลอุทรณ์ตัดสินมีความผิด สั่งลงโทษจำคุก 5 ปี 12 เดือน และปรับเงิน 5.6 แสนบาท ถ้าไม่มีเงินให้กักขังแทนเงินค่าปรับ
ต่อมาตนทำเรื่องขออนุญาตฎีกาและศาลจังหวัดสุรินทร์ได้รับคำร้องส่งให้ศาลฎีกาซึ่งศาลฎีการับไว้พิจารณาคดี ระหว่างที่ศาลฎีการับเรื่องน.ส.สุพรรณษา ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัวระหว่างที่สู้คดี
ล่าสุดศาลฎีกามีดุลยพินิจตามพยานหลักฐานพิพากษาตัดสินยกฟ้อง ว่าจำเลยไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิด เมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งน.ส.สุพรรณษาต้องติดคุกระหว่างต่อสู้ในชั้นฎีกา 13 เดือน รวม 2 ครั้งเป็นเวลา 21 เดือน
สิ่งที่ตนอยากจะสะท้อนให้เห็นว่า ลูกความตนได้ถูกจองจำในเรือนจำรวม 2 ครั้ง เป็นเวลาถึง 21 เดือน อยากจะให้หน่วยงานของรัฐได้เข้ามาเยี่ยวยา โดยจ่ายไปตาม พรบ.เงินทดแทน โดยผ่านกองทุนของจังหวัดมาเยียวยาในจุดนี้ ตนจึงพาลูกความมายื่นหนังสือเพื่อขอรับเงินเยียวยา ในส่วนที่รัฐจะเยียวยานั้นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของภาครัฐ
“คดีนี้หากไม่มีการยื่นฎีกาลูกความผมต้องติดคุกถึง 8 ปีเลย แต่น่ายินดีที่ศาลฎีกาท่านยกฟ้อง อยากให้ภาครัฐเข้ามาเยียวยาในจุดนี้ด้วย”นายคำสิงห์กล่าว
ขณะที่น.ส.สุพรรณษา ตอบคำถามกับผู้ข่าวว่า มาถึงวันนี้ ตนเองดีใจ และมีกำลังใจขึ้น ตนเองติดคุกฟรีมานานถึง 21 เดือน วันนี้ญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง มาสอบถามสารทุกข์ ก็มีกำลังใจมากขึ้น
ส่วนนางพัชรพร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ กล่าวสั้นๆว่ามาถึงวันนี้แล้วมีกำลังใจมากขึ้น แต่ก่อนนั้นตนลำบากมากต้องเดินทางมาเยี่ยมลูกสาวเดือนละหลายครั้ง จนกระทั่งได้ออกจากคุก ขอบคุณทนายคำสิงห์ ชอบมี ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจครอบครัวของตนทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป