รอผลดีเอ็นเอ มัดตัวหนุ่มลิทัวเนีย ปฏิเสธฆ่าสาวสอง หลังพบดีเอ็นเอในคราบเลือดบนชั้น 2 เพียง 2 ราย รอผลยันว่าตรงกัน ฟันธงตัวฆาตกร เตรียมนำตัวฝากขังศาล
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
กรณี นายธีรพงศ์ อายุ 31 ปี สาวประเภทสอง ที่ถูกนายมาลิอุส คุนิคกัส สัญชาติลิทัวเนีย อายุ 32 ปี แฟนหนุ่ม ฆาตกรรมอำพรางเหตุเกิดภายในบ้านพื้นที่ ม.11 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจมุ่งปมทะเลาะหึงหวง ก่อนที่ตร.จะตามจับแฟนหนุ่มได้ที่พัทยา และถูกคุมตัวกลับไว้ที่ สภ.ปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยยืนกรานปฏิเสธ บอกเสียใจที่เกิดเรื่อง ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายมาลิอุส ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ฆ่าผู้ตายแต่อย่างใด แม้หลักฐานทั้งคำให้การของพยานและภาพวงจรปิดจะพุ่งเป้าไปยังนายมาลิอุสว่าเป็นผู้ก่อเหตุก็ตาม ก็ยังให้การปฎิเสธและมีพิรุธในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของรอยแผลที่เกิดขึ้นที่หน้าขาและมีคราบเลือดติดอยู่ ตามที่มารดาของผู้ตายได้เคยสงสัย และสอบถามนายมาลิอุส ก่อนที่จะหายตัวไป
ระหว่างที่นายมาลิอุสซื้อเบียร์ 1 ลังไปนั่งดื่มกับแม่ของผู้ตาย และตอบคำถามกับแม่ผู้ตายว่า แผลและคราบเลือดดังกล่าว เกิดจากเศษขวดที่แตกกระเด็นมาบาด แต่คำให้การที่ตอบกับสื่อมวลชน กลับบอกว่า เป็นแผลที่เกิดจากรอยขีดข่วนและการเกา ซึ่งจำไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
รวมทั้งภาพวงจรปิดที่ตำรวจเห็นนายมาลิอุส ขับรถเก๋งที่เช่ามาถูกขับเข้าไปจอดทิ้งไว้ใน บขส.อ.ปราสาท โดยให้เหตุผลว่าจะเดินทางไปพัทยาก่อนที่ผู้ตายจะเดินทางตามไปทีหลังเพื่อไปพบใครบางคน พร้อมจะเอาโทรศัพท์มือถือที่มีปัญหาไปซ่อม จึงจอดรถทิ้งไว้มานานหลายสัปดาห์ จนทำให้ หน.สถานีขนส่ง อ.ปราสาท ต้องโทรศัพท์ไปแจ้ง จนท.ตำรวจว่าพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ บขส.อ.ปราสาท มานาน
และอีกหลายประเด็น ทั้งที่นายมาลิอุสบอกว่า เสื้อที่เปื้อนเลือดที่ตำรวจค้นพบที่พัทยานั้น เป็นเลือดกำเดาของตนเอง และแม้จะพยายามบอกว่า ตนสงสัยผู้เป็นแม่ผู้ตายที่มักจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ตายอยู่บ่อยๆ ก็ตาม แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด
ทั้งนี้หลังจากนายมาลิอุสให้การปฏิเสธ จนท.ตำรวจ สภ.ปราสาท ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานเนื้อเยื้อของนายมาลิอุสไปตรวจดีเอ็นเอทันที เพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอในคราบเลือด สารคัดหลั่งและรอยนิ้วมือต่างๆ ภายในบ้านของผู้ตายทั้งที่ชั้นล่างและชั้น 2 ของตัวบ้าน โดยเฉพาะที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ที่พบว่ามีลักษณะฝุ่นจับไปทั่วห้อง เหมือนไม่ค่อยมีคนอาศัยอยู่
จึงเป็นที่สังเกตว่าต่างจากห้องชั้นล่างที่เชื่อว่ามีการพักอาศัยอยู่เป็นเป็นประจำ แต่ชั้น 2 กลับพบคราบเลือดตามขอบหน้าต่าง และบนพื้นห้องตามจุดต่างๆ แม้จะพบร่องรอยของการถูกเช็ดทำความสะอาดไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ก็ยังสามารถใช้เทคนิคทางนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจหาร่องรอยของคราบเลือดเพื่อเก็บหลักฐานไปตรวจดีเอ็นเอได้ ด้วยการใช้สารเรืองแสงที่ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เกิดการเรืองแสงในจุดที่มีคราบเลือดได้ในที่มืด
แหล่งข่าวยืนยันว่า คราบเลือดบนชั้น 2 ของตัวบ้าน มีดีเอ็นเอ 2 บุคคลเท่านั้น คือของผู้ตายและบุคคลต้องสงสัยอีก 1 คน และหากการตรวจดีเอ็นเอที่ตัวของนายมาลิอุส ตรงกับกับดีเอ็นเอที่พบอยู่ในคราบเลือด สารคัดหลั่งและรอยนิ้วมือบนชั้นสองของตัวบ้านแล้วตรงกัน ก็เชื่อได้ว่านายมาลิอุสคือคนร้ายตัวจริง
และจะสามารถมัดตัวด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และขอหมายศาลออกหมายจับนายมาลิอุสได้ทันที แต่หากดีเอ็นเอของนายมาลิอุสไม่ตรงกับที่เกิดเหตุ นั่นก็แสดงว่าผู้ที่ฆาตกรรมผู้ตาย ต้องเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่นายมาลิอุสอย่างแน่นอน ซึ่งผลตรวจดีเอ็นเออยู่ระหว่างตรวจสอบในห้องแล็บของ สนง.พิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ อยู่ในขณะนี้ คาดว่าผลจะออกในวันนี้
ขณะที่นายมาลิอุส ผู้ต้องสงสัยยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.ปราสาท โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ตอนนี้รอเพียงคำสั่งศาลเท่านั้น และหากผลดีเอ็นออกมาชัดเจนแล้วว่า นายมาลิอุสคือฆาตกร ตำรวจก็จะนำตัวไปทำแผนประกอบหลักฐานต่อไป สำหรับพิธีฌาปนกิจผู้ศพตาย จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย.65 ที่วัดบ้านเกิด